วันอังคารที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2560

พระมหาสาวก 80 องค์ ตอนที่ 5

     41. มหาปันถกะ เป็นบุตรของธิดาเศรษฐีพระนครราชคฤห์ เป็นพี่ชายของพระจูลปันถกะ บวชเป็นสามเณรตั้งแต่เด็ก เมื่ออายุครบก็อุปสมบท ต่อมาได้สำเร็จพระอรหัต ได้รับยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะทางด้าน “เป็นผู้ฉลาดในปัญญาวิวัฎฎ์”
     ท่านชำนาญในอรูปาวจรฌานและเชี่ยวชาญทางด้านวิปัสสนา ท่านเคยรับหน้าที่เป็นภัตตุทเทสก์ คือ ผู้จัดแจกอาหารของสงฆ์
     42. มหาโมคคัลลานะ เกิดที่หมู่บ้านโกลิตคาม ไม่ไกลจากกรุงราชคฤห์ เป็นบุตรของพราหมณ์นายบ้าน เป็นพระสหายกับพระสารีบุตรมาแต่เด็ก ออกบวชเป็นปริพาชก จนกระทั่งอุปตัสสะ (นามเดิมของพระสารีบุตร) ได้พบหนึ่งในพระปัญจวัคคีย์คือ พระอัสชิ จึงได้มาเฝ้าพระพุทธเจ้าบวชในพระธรรมวินัย ถึงวันที่ 7 ก็ได้บรรลุอรหัตตผล ได้รับยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะใน “ทางมีฤทธิ์มาก”
     พระมหาโมคคัลลานะนับเป็น พระสาวกเบื้องซ้ายของพระพุทธเจ้า
     43. เมฆิยะ เคยเป็นอุปัฏฐากของพระพุทธองค์ ได้ฟังพระธรรมเทศนาเรื่องธรรม 5 ประการสำหรับเจโตวิมุตติ (การหลุดพ้นจากกิเลสด้วยอำนาจการฝึกจิตหรือด้วยกำลังสมาธิ) เป็นต้น ที่พระศาสดาทรงแสดงจึงได้สำเร็จพระอรหัต
     44. เมตตคู ศิษย์คนหนึ่งในจำนวน 16 คนของพราหมณ์พาวรีที่ไปทูลถามปัญหาพระพุทธเจ้า ที่ปาสณเจดีย์
     45. โมฆราชะ ศิษย์คนหนึ่งในจำนวน 16 คนของพราหมณ์พาวรีที่ไปทูลถามปัญหาพระพุทธเจ้า ที่ปาสณเจดีย์ได้บรรลุพระอรหัตตผลแล้วอุปสมบท ได้รับยกย่องเป็นเอตทัคคะใน “ทางทรงจีวรหมองเศร้า”
     46. ยสะ เป็นบุตรเศรษฐีกรุงพาราณสี เกิดความสลดใจคิดเบื่อหน่าย พบพระพุทธเจ้าที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน พระองค์ตรัสเทศนายสกุลบุตรได้ดวงตาเห็นธรรม ต่อมาได้ฟังธรรมที่พระพุทธเจ้า แสดงแก่บิดาของตน ก็ได้บรรลุอรหัตตผลแล้วขออุปสมบท เป็นภิกษุสาวกองค์ที่ 6 ของพระพุทธเจ้า พระยสะเป็นพระอรหันต์องค์แรกที่อยู่ในเพศคฤหัสถ์ คือยังมิได้บวชก็บรรลุความเป็นพระอรหันต์ ซึ่งเป็นคุณสูงสุดในพระพุทธศาสนา
     47. ยโสชะ เป็นบุตรหัวหน้าชาวประมงใกล้ประตูพระนครสาวัตถี ได้ฟังพระธรรมเทศนากปิลสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง มีความเลื่อมใสขอบวช ต่อมาไปเจริญสมณธรรมที่ฝั่งแม่น้ำวัคคุมุทา ได้สำเร็จพระอรหัต
     48. รัฎฐปาละ เป็นบุตรแห่งตระกูลหัวหน้าในถุลลโกฐิตินิคมในแคว้นกุรุ ฟังธรรมแล้วเลื่อมใสในพระพุทธศาสนามาก บิดามารดาไม่อนุญาตให้บวช เสียใจอดอาหารจะได้ตายเสีย บิดามารดาจึงต้องอนุญาต ออกบวชแล้วไม่นานก็สำเร็จพระอรหัต ได้รับยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะใน “ทางบวชด้วยศรัทธา”
     49. ราธะ เดิมเป็นพราหมณ์ในพระนครราชคฤห์ ยามชราลงถูกบุตรทอดทิ้ง อยากบวชก็ไม่มีภิกษุบวชให้เพราะเห็นเป็นคนแก่เฒ่า พระศาสดาทราบทรงตรัสถามว่า มีใครระลึกถึงอุปการะของราธะได้บ้าง พระสารีบุตรระลึกถึงภิกษาทัพพีหนึ่งที่ราธะถวาย จึงรับเป็นอุปัชฌาย์ ราธะเป็นบุคคลแรกที่อุปสมบทด้วยญัตติจตุถกรรมวาจา (คือการอุปสมบทที่สงฆ์เป็นผู้กระทำอย่างที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน) พระราธะเคยทำหน้าที่พุทธอุปัฎฐาก ได้รับยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะใน “ทางก่อให้เกิดปฏิภาณ”
     50. ราหุล เป็นโอรสของเจ้าชายสิทธัตถะ ราหุลกุมารเข้าเฝ้าทูลขอทายาทสมบัติตามคำแนะนำของพระมารดา พระพุทธเจ้าจะประทานอริยทรัพย์ จึงให้พระสารีบุตรบวชราหุลเป็นสามเณรองค์แรกในพุทธศาสนา ต่อมาได้อุปสมบทเป็นภิกษุ ได้รับยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะใน “ทางเป็นผู้ใคร่ต่อการศึกษา”

ขอบคุณ หนังสือความรู้เกี่ยวกับพระพุทธเจ้า โดยภัทรวรรณ วันทนชัยสุข


วันพุธที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2560

พระมหาสาวก 80 องค์ ตอนที่ 4

     31. พาหิยะ ทารุจีริยะ เกิดในครอบครัวคนมีตระกูลในแคว้นพาหิยรัฐ พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม วิธีปฏิบัติต่อ อารมณ์ที่รับรู้ทางอายตนะทั้ง 6 พอจบพระธรรมเทศนาย่นย่อนั้นก็สำเร็จอรหัต แต่ไม่ทันได้อุปสมบท ขณะเที่ยวหาบาตรจีวร เผอิญถูกโคแม่ลูกอ่อนขวิดเอาสิ้นชีวิตเสียก่อน ได้รับยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะใน “ทางตรัสรู้ฉบับพลัน”
     32. ภัคคุ เจ้าศากยะองค์หนึ่ง ซึ่งพร้อมใจกันออกบรรพชามี กษัตริย์อีก 5 องค์ คือ ภัททิยะ 1 พระอนุรุทธะ 1 พระอานนท์ 1 พระกิมพิละ 1 พระเทวทัต 1 รวมเป็นกษัตริย์ 6 องค์ และมีอุบาลีอำมาตย์ช่างกัลบก รวมเป็น 7 ด้วยกัน
     33. ภัททิยะ เจ้าศากยะองค์หนึ่ง ซึ่งพร้อมใจกันออกบรรพชามีกษัตริย์ 6 องค์และอำมาตย์ช่างกัลบก รวมเป็น 7 พระภัททิยะได้รับยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะใน “บรรดาภิกษุผู้มาจากตระกูลสูง”
     34. ภัททิยะ หนึ่งในพระปัญจวัคคีย์ เป็นพระอรหันต์สาวก รุ่นแรกของพระพุทธเจ้า คือ 1. อัญญาโกณฑัญญะ 2. วัปปะ 3. ภัททิยะ 4. มหานามะ 5. อัสสชิ
     35. ภัทธราวุธ ศิษย์คนหนึ่งในจำนวน 16 คนของพราหมณ์พาวรีที่ไปทูลถามปัญหาพระศาสดา ที่ปาสาณเจดีย์
     36. มหากัจจายนะ เกิดในกัจจายนโคตรที่พระนครอุชเชนี แคว้นอวันตี เรียนจบไตรเพทแล้วต่อมาเป็นปุโรหิตแทนบิดา พระเจ้าจัณฑปัชโชตตรัสสั่งให้หาทางนำพระพุทธเจ้าเสด็จมาสู่กรุงอุชเชนี  เมื่อเดินทางไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ได้ฟังพระธรรมเทศนาแล้วบรรลุอรหัตผล อุปสมบทแล้วแสดงความประสงค์จะอัญเชิญเสด็จพระพุทธเจ้าสู่แคว้นอวันตี พระพุทธองค์ตรัสให้ท่านเดินทางไปเอง ท่านเดินทางไปประกาศธรรมยังพระจัณฑปัชโชตและชาวเมืองอุชเชนีทั้งหมดให้เลื่อมใสในพระศาสนาแล้ว จึงกลับมาเฝ้าพระบรมศาสดา ได้รับยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะใน “ทางขยายความต่อในทางพิศดาร”(ขอเสริม ท่านเป็นผู้ทูลขอพุทธานุญาตจากพระพุทธเจ้า เช่น ให้พระภิกษุสวมรองเท้า และ ให้อาสนะพระภิกษุมีที่พิง เป็นต้น พระพุทธเจ้าทรงอนุญาติ เหตุที่ท่านทูลขอให้สวมรองเท้าเกิดจาก ทางทุรกันดารทำให้พระภิกษุได้รับบาดเจ็บ และพระภิกษุชราย่อมต้องพิงหลังบ้าง)
     37. มหากัปปินะ เป็นกษัตริย์นครกุกกุฎวดีในปัจจันตประเทศทรงสละราชสมบัติมาเฝ้าพระพุทธเจ้า สดับธรรมกถาบรรลุพระอรหัตแล้วได้รับอุปสมบท ชอบอยู่สงบสงัดและมักอุทานว่า สุขจริงหนอ สุขจริงหนอ ท่านสามารถแสดงธรรมให้ศิษย์บรรลุอรหัตตผล ได้พร้อมคราวเดียวถึง 1000 องค์ ได้รับยกย่องว่าเป็น เอตทัคคะใน “ทางให้โอวาทแก่ภิกษุ”
     38. มหากัสปะ เป็นบุตรของกปิลพราหมณ์ แห่งแคว้นมคธ สมรสเมื่ออายุ 20 ปี แต่ทั้งสามีภรรยาได้สละเรือน นุ่งห่มผ้ากาสาวะ ออกบวชกันเอง ได้อุปสมบทด้วยโอวาท 3 ข้อ และได้ถวายผ้าสังฆาฏิของตนแลกกับจีวรเก่าของพระพุทธเจ้า แล้วสมาทานธุดงค์ ครั้นบวชล่วงไปแล้ว 7 วัน ก็ได้บรรลุพระอรหัต เป็นผู้มีปฏิปทามักน้อยสันโดษ ได้รับยกย่องเป็นเอตทัคะใน “ทางถือธุดงค์”
     เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ท่านเป็นผู้ริเริ่มและเป็นประธานในปฐมสังคายนา ท่านดำรงชีวิตสืบมาจน 120 ปี จึงปรินิพพาน
     39. มหาโกฏฐิตะ เกิดในตระกูลพราหมณ์ในพระนครสาวัตถี ท่านเรียนจบไตรเพท ได้ฟังเทศนาของพระศาสดามีความเลื่อมใสบวชแล้วเจริญวิปัสสนาได้บรรลุพระอรหัต ได้รับยกย่องเป็นเอตทัคคะใน “ทางเป็นผู้แตกฉานในปฏิสัมภิทา 4” (ปัญญาแตกฉานมี 4)
      40.มหานามะ หนึ่งในพระปัญจวัคคีย์ เป็นพระอรหันต์สาวกรุ่นแรกของพระพุทธเจ้า คือ 1. อัญญาโกณฑัญญะ 2. วัปปะ 3. ภัททิยะ 4. มหานามะ 5. อัสสชิ


ขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือความรู้เกี่ยวกับพระพุทธเจ้า โดยภัทรวรรณ วันทนชัยสุข

     

วันเสาร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2560

พระมหาสาวก 80 องค์ ตอนที่ 3

     21. นาลกะ เป็นหลานชายของอสิตดาบส ออกบวชตามคำแนะนำของลุง บำเพ็ญสมณธรรมรอการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าอยู่ในป่าหิมพานต์ ครั้นพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วได้มาทูลถามเรื่องโมไนยปฏิปทา (ทางดำเนินคุณธรรมของนักปราชญ์ , ข้อปฏิบัติธรรมที่ทำให้เป็นมุนี) แล้วกลับไปบำเพ็ญสมณธรรม ได้บรรลุอรหัตแล้วดำรงอายุอยู่อีก 7 เดือน ก็ปรินิพพานในป่าหิมพานต์
     22. ปิงคิยะ ศิษย์คนหนึ่งในจำนวน 16 คนและเป็นหลานของพราหมณ์พาวรี ได้กลับมาเล่าเรื่องและแสดงคำตอบปัญหาของพระศาสดา ทำให้พราหมณ์พาวรีบรรลุธรรมเป็นพระอนาคามี
     23. ปิณโฑลภารทวาชะ เดิมเป็นบุตรพราหมณ์ในพระนครราชคฤห์ เรียนจบไตรเภท ออกบวชในพระพุทธศาสนาได้สำเร็จพระอรหัต เป็นผู้บริบูรณ์ด้วยสติ สมาธิ ปัญญา มักเปล่งวาจาว่า “ผู้ใดมีความเคลือบแคลงสงสัยในมรรคก็ดี ในผลก็ดี ขอผู้นั้นจงมาถามข้าพเจ้าเถิด” ได้รับยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะในทาง “บันลือสีหนาท” (ขอเสริม ท่านเป็นผู้ที่มีฤทธิ์รองจากพระโมคคัลลานะ พระอัครสาวกเบื้องซ้ายของพระพุทธเจ้า ดูได้จากการเหาะไปเอาบาตรไม้ของเศรษฐี)
     24. ปิลินทวัจฉะ เกิดในตระกูลพราหมณ์ในพระนครสาวัตถีได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระพุทธเจ้า มีศรัทธาเลื่อมใสออกบวชในพระพุทธศาสนา เจริญวิปัสสนาแล้วได้บรรลุอรหัตผล ได้รับยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะในทาง “เป็นที่รักของเทวดา”
     25. ปุณณกะ ศิษย์คนหนึ่งในจำนวน 16 คนของพราหมณ์พาวรี ที่ไปทูลถามปัญหาพระศาสดา ที่ปาสาณเจดีย์
     26. ปุณณชิ เดิมเป็นบุตรเศรษฐีเมื่องพาราณสี เป็นสหายของพระยสะ ภิกษุสาวกองค์ที่ 6 ของพระพุทธเจ้า เมื่อทราบข่าวว่ายสกุลบุตรออกบวช จึงบวชตามพร้อมด้วยสหายอีกสามคนคือ ควัมปติ วิมละ และสุพาหุ
     27. ปุณณมันตานีบุตร เกิดในตระกูลพราหมณ์ไม่ไกลจากกรุงกบิลพัสดุ์ เป็นหลานของพระอัญญาโกณธัญญะ บวชแล้วไม่นานก็บรรลุอรหัตผล เป็นผู้ปฏิบัติตนตามหลักกถาวัตถุ 10 (เรื่องที่ควรนำมาสนทนากันในหมู่ภิกษุมี 10 อย่าง) ได้รับยกย่องเป็นเอตทัคคะใน “บรรดาพระธรรมกถึก” (ธรรมกถึก หมายถึงผู้กล่าวสอนธรรม)
     28. ปุณณสุนาปรันตะ เกิดที่เมืองท่าสุปปารกะ แคว้นสุนาปรันตะ นำกองเกวียนค้าขายตามหัวเมืองต่าง ๆ แนะให้พ่อค้า 500 คน ที่นำไม้จันทน์แดงมาถวายท่าน สร้าง “จันทนศาลา” ถวายพระพุทธเจ้าในมกุฬการาม  แคว้นสุนาปรันตะ พระพุทธองค์ทรงเสด็จมาประทับ 2-3 วัน และประทับรอยพระบาทที่นัมมทา นาคราชขอเป็นของที่ระลึกไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำนัมทา และที่ภูเขาสัจจพันธ์ ซึ่งพระสัจจพันธ์ทูลขอสิ่งที่ระลึกไว้บูชา นับเป็นประวัติการเกิดขึ้นของรอยพระพุทธบาท
     29. โปสาละ ศิษย์คนหนึ่งในจำนวน 16 คนของพราหมณ์พาวรี ที่ไปทูลถามปัญหาพระศาสดา ที่ปาสาณเจดีย์
     30. พากุละ บุตรเศรษฐีเมืองโกสัมพี เป็นผู้ที่คนสองตระกูลเลี้ยง ท่านอยู่ครองเรือนมาจนอายุ 80 ปี ได้ฟังพระธรรมเทศนามีความเลื่อมใสขอบวช แล้วบำเพ็ญเพียรอยู่ 7 วัน ได้บรรลุพระอรหัต ได้รับยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะใน “ทางผู้มีอาพาธน้อย” คือสุขภาพดี

ขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือความรู้เกี่ยวกับพระพุทธเจ้า โดยภัทรวรรณ วันทนชัยสุข

โอปปาติกะ

เทวดา      เทวดา ได้แก่ โอปปาติกะ ที่อยู่ในภพที่มีความสุขมากกว่าความทุกข์ หรือที่เรียกว่า สุคติ หรือพูดภาษาชาวบ้านคือ ฝ่ายบุญ ซึ่งน่าจะ...