วันเสาร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2561

การบรรลุธรรม


การบรรลุธรรมในพระพุทธศาสนาจะเป็นไปตามลำดับขั้นดังต่อไปนี้

1.พระโสดาบัน  ละกิเลสได้ 3 ขั้นคือ    
1.1 สักกายทิฏฐิ (ความเห็นว่าเป็นตัวของตน/ความยึดติดในอัตตา)   
1.2 วิจิกิจฉา (ความสงสัย,ความลังเลไม่แน่ใจ)   
1.3 สีลัพพตปรามาส (ความถือมั่นศีลพรต โดยสักว่าทำตาม ๆ กันไป อย่างงมงาย  เห็นว่าจะบริสุทธิ์ หลุดพ้น ได้ด้วยเพียงศีลวัตร)

2.พระสกิทาคามี   ละกิเลส 3 ข้อข้างต้นนั้นได้แล้ว มี ราคะ โทสะ โมหะ เบาบาง 

3.พระอนาคามี  ละกิเลสเบื้องต่ำได้ทั้งหมด คือ  
3.1 สักกายทิฏฐิ (ความเห็นว่าเป็นตัวของตน/ความยึดติดในอัตตา)  
3.2 วิจิกิจฉา (ความสงสัย,ความลังเลไม่แน่ใจ)  
3.3 สีลัพพตปรามาส (ความถือมั่นศีลพรต โดยสักว่าทำตาม ๆ กันไป อย่างงมงาย  เห็นว่าจะ บริสุทธิ์  หลุดพ้น ได้ด้วยเพียงศีลวัตร)    
3.4 กามราคะ (ความติดใจในกามคุณ)  
3.5 ปฏิฆะ (ความกระทบกระทั่งในใจ)

4.พระอรหันต์  ละกิเลสเป็นเหตุรัดรึงใจได้ทั้งหมด 10 ชนิดดังนี้  
4.1   สักกายทิฏฐิ (ความเห็นว่าเป็นตัวของตน/ความยึดติดในอัตตา)    
4.2   วิจิกิจฉา (ความสงสัย,ความลังเลไม่แน่ใจ)   
4.3   สีลัพพตปรามาส (ความถือมั่นศีลพรต โดยสักว่าทำตาม ๆ กันไป อย่างงมงาย เห็นว่าจะบริสุทธิ์หลุด พ้น ได้ด้วยเพียงศีลวัตร)    
4.4   กามราคะ (ความติดใจในกามคุณ)   
4.5   ปฏิฆะ (ความกระทบกระทั่งในใจ)   
4.6   รูปราคะ (ความติดใจในอารมณ์แห่งรูปฌานหรือในรูปธรรมอันประณีต)   
4.7   อรูปราคะ (ความติดใจในอารมณ์แห่งอรูปฌาน หรือในอรูปธรรม)   
4.8   มานะ (ความสำคัญตน คือ ถือว่า ตนเป็นนั่นเป็นนี่) 
4.9   อุจธัจจะ (ความฟุ้งซ่าน)    
4.10 อวิชชา (ความไม่รู้จริง,ความลุ่มหลง)

ขอบคุณข้อมูลจากนิตยสาร nim  magazine   


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

โอปปาติกะ

เทวดา      เทวดา ได้แก่ โอปปาติกะ ที่อยู่ในภพที่มีความสุขมากกว่าความทุกข์ หรือที่เรียกว่า สุคติ หรือพูดภาษาชาวบ้านคือ ฝ่ายบุญ ซึ่งน่าจะ...