อาบัติในพระพุทธศาสนาคืออะไร
อาบัติคือโทษที่เกิดจากการละเมิดในข้อ
(พระวินัยบัญญัติ) ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสห้าม
อาบัติมี 7 อย่างคือ
1. ปาราชิก (1.เสพเมถุนแม้กับสัตว์
2.ขโมยของตั้งแต่ 5 มาสกขึ้นไป (1บาท)3.ฆ่าคน 4.อวดอุตริมนุสธรรมซึ่งตนเองไม่มี(ยกเว้นตนเองเข้าใจผิด))
2. สังฆาทิเสส (มี13ข้อ
ทำอสุจิเคลื่อน แตะต้องกายสตรี พูดเกี้ยวพาราสีสตรี พูดจาให้สตรีบำเรอกามให้
ทำตัวเป็นพ่อสื่อ สร้างกุฏิด้วยการขอ
มีเจ้าภาพสร้างกุฏิให้แต่ไม่ไห้สงฆ์แสดงที่ก่อน ใส่ความว่าปาราชิกโดยไม่มีมูล แกล้งสมมติแล้วใส่ความว่าปาราชิกโดยไม่มีมูล
ทำสังฆเภทคือทำสงฆ์แตกแยก ภิกษุทำตนเป็นคนหัวดื้อ ประจบสอพลอคฤหัสถ์)
3. ถุลลัจจัย (เกิดจากการกระทำที่หยาบคาย)
4. ปาจิตตีย์ (เกิดจากการทำให้ความดีงามตกไป)
5. ปาฏิเทสนียะ (มี 4 ข้อ
ห้ามรับของขบเคี้ยวของฉันจากมือภิกษุณีมาฉัน
ไล่ให้นางภิกษุณีที่มายุ่งให้เขาถวายอาหาร ห้ามรับอาหารในสกุลที่สงฆ์สมมติว่าเป็นเสขะ
ห้ามรับอาหารที่เขาไม่ได้จัดเตรียมไว้ก่อนมาฉันเมื่ออยู่ป่า )
6. ทุกกฏ (เกิดจากการกระทำที่ไม่ดีไม่เหมาะสม)
7. ทุพภาสิต (เกิดจากการพูดไม่ดีไม่เหมาะสม)
ทั้งหมดมีโทษ 3 สถานคือ
1. อาบัติอย่างหนัก
ทำให้ภิกษุผู้ต้องอาบัตินั้น ขาดจากความเป็นภิกษุ คือ ปาราชิก
ซึ่งเป็นอาบัติที่แก้ไขไม่ได้ เรียกว่า อเตกิจฉา
2. อาบัติอย่างกลาง ทำให้ภิกษุผู้ต้องอาบัตินั้นต้องอยู่กรรม
(ปริวาส หรือ มานัต) โดยประพฤติวัตรอย่างหนึ่งเพื่อทรมานตน คือ สังฆาทิเสส
3. อาบัติอย่างเบา
ทำให้ภิกษุผู้ต้องอาบัตินั้นต้องประจานตนต่อหน้าภิกษุด้วยกัน แล้วจึงจะพ้นโทษนั้น
คือ ถุลลัจจัย ปาจิตตีย์ ปาฏิเทสนียะ ทุกกฏ ทุพภาสิต
โดยอาบัติอย่างกลางและอย่างเบานั้น เป็นอาบัติที่ยังแก้ไขได้ เรียกว่า สเตกิจฉา
(ขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซด์บ้านธรรมะ
วิกิพีเดียสารานุกรมเสรี ผู้สงสัยข้อใดให้ไปค้นทางเน็ตดูนะครับ ของผมจะเน้นกระชับ
ส่วนรายละเอียดยังมีอีกเยอะ เพราะผู้รู้ยังมีอีกมาก เว็บไซด์ดี ๆ ยังมีอีกมาก
ลองไปค้นหาดูครับ)