วันอาทิตย์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2560

พระกุมารกัสสปะ

     ประวัติท่านค่อนข้างพิสดาร ท่านเป็นบุตรนางภิกษุณีรูปหนึ่ง แห่งเมืองสาวัตถี มารดาของท่านตั้งครรภ์ก่อนบวชโดยไม่รู้ตัว พระเทวทัตผู้ดูแลภิกษุณีรูปนี้ เข้าใจว่าเธอต้องปาราชิก จึงสั่งให้สึก นางเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของตน จึงอุทธรณ์ต่อพระพุทธเจ้า พระองค์รับสั่งให้พระอุบาลีเถระชำระอธิกรณ์ ความจริงปรากฏว่านางมีศีลบริสุทธิ์จึงไม่ต้องสึก
     เมื่อคลอดแล้วนางก็เลี้ยงดูบุตรน้อยอยู่ในวัดด้วยความลำบาก พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงทราบเรื่อง จึงทรงขอบุตรเธอไปชุบเลี้ยงเป็นพระโอรสบุญธรรมในราชสำนัก พระราชทานนามว่า กุมารกัสสปะ
     เด็กน้อยกุมารกัสสปะทราบความเป็นมาของตน จึงมีความสลดใจ ทูลขอพระบรมราชานุญาตออกบวชภายหลังได้สำเร็จเป็นพระอรหัต
     มารดาของท่าน ตั้งแต่จากกันไป ไม่มีฉันทะ ปฏิบัติธรรม ครุ่นคิดถึงแต่ลูก วันหนึ่งพบสามเณรผู้บุตรชายขณะออกบิณฑบาต วิ่งเข้าไปหา ร้องเรียก “ลูก ๆ” สามเณรไม่ต้องการเห็นมารดาจมอยู่กับความรักบุตร จนไม่สามารถบรรลุธรรม จึงกล่าวเตือนว่า “เพียงความรักบุตรยังตัดไม่ขาด จะหวังมรรคผลนิพพานอะไรได้” ทำให้มารดาตัดใจได้ ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติจนบรรลุพระอรหัต
     พระกุมารกัสสปะ ได้รับยกย่องจากพระพุทธองค์ว่าเป็นผู้กล่าวคำอันวิจิตร คือเป็นนักพูดที่มีวาทศิลป์เป็นเลิศ หลังพุทธปรินิพพานไม่นาน ท่านได้ใช้วาทะอันคมคายของท่านหักล้างความเห็นผิดของเจ้าเมืองเสตัพยะนามว่า ปายาสิราชนย์ จนท้าวเธอยอมจำนนด้วยเหตุผล สละทิฐิผิด ๆ หันมานับถือ พระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิต นับว่าท่านเป็นกำลังสำคัญยิ่งในการเผยแผ่พระพระพุทธศาสนา

ขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือคาถาชินบัญชร
โดย ศ.พิเศษ เสฐียรพงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิต
ผู้ที่อยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมควรค้นหาในวิกิพีเดียสารานุกรมเสรีหรือในอินเตอร์เน็ต


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

โอปปาติกะ

เทวดา      เทวดา ได้แก่ โอปปาติกะ ที่อยู่ในภพที่มีความสุขมากกว่าความทุกข์ หรือที่เรียกว่า สุคติ หรือพูดภาษาชาวบ้านคือ ฝ่ายบุญ ซึ่งน่าจะ...