51. เรวตขทิรวนิยะ เป็นบุตรพราหมณ์และเป็นน้องชายคนสุดท้องของพระสารีบุตร
บวชอยู่ในสำนักของภิกษุพวกอยู่ป่า (อรัญวาสี) บำเพ็ญสมณธรรมอยู่ในป่าไม้ตะเคียน 3
เดือนเศษ ก็ได้สำเร็จพระอรหัต ได้รับยกย่องเป็นเอตทัคคะใน “ทางอยู่ป่า”
52. ลกุณฏกภัททิยะ เป็นบุตรในตระกูลมั่งคั่งพระนครสาวัตถี
ท่านได้บรรลุพระอรหัตในสำนักพระสารีบุตร แต่ความที่มีรูปร่างเล็ก เตี้ยค่อม
จึงมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นสามเณรบ้าง ถูกพระหนุ่มเณรน้อยล้อเลียนบ้าง
ถูกเพื่อนพระดูแคลนบ้าง แต่พระพุทธเจ้ากลับตรัสยกย่องว่าถึงท่านจะร่างเล็ก
แต่มีคุณธรรมฤทธานุภาพมาก ได้รับยกย่องเป็นเอตทัคคะใน “ทางมีเสียงไพเราะ”
53. วักกลิ เป็นบุตรพราหมณ์ชาวพระนครสาวัตถี
บวชในพระพุทธศาสนาด้วยความอยากเห็นพระรูปพระโฉมพระศาสดา
คอยติดตามดูพระองค์ตลอดเวลาจนไม่เป็นอันเจริญภาวนา พระพุทธองค์ตรัสเตือนว่า “จะมีประโยชน์อะไรที่ได้เห็นกายเปื่อยเน่านี้
ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเรา” และทรงสอนต่อจนพระวักกลิได้สำเร็จเป็นพระอรหัต
ได้รับยกย่องจากพระศาสดาว่าเป็นเอตทัคคะใน “ทางศรัทธาวิมุต” คือหลุดพ้นด้วยศรัทธา
54. วังคีสะ เป็นบุตรพราหมณ์ในพระนครสาวัตถี มีความชำนาญในมนตร์พิเศษ
เมื่อเอานิ้วเคาะหัวศพก็ทราบว่า ผู้นั้นตายแล้วไปเกิดเป็นอะไร ที่ไหน
แต่เมื่อเคาะศีรษะของผู้ปรินิพพานแล้วไม่สามารถบอกคติได้ ด้วยความอยากเรียนมนตร์เพิ่มอีกจึงขอบวชในพระพุทธศาสนา
ไม่นานก็บรรลุพระอรหัต ได้รับยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะใน “ทางมีปฏิภาณ”
55. วัปปะ หนึ่งในพระปัญจวัคคีย์
เป็นพระอรหันต์สาวกรุ่นแรกของพระพุทธเจ้า คือ 1. อัญญาโกณฑัญญะ 2. วัปปะ 3. ภัททิย
4. มหานามะ 5. อัสสชิ
56. วิมละ บุตรเศรษฐีเมืองพาราณสีเป็นสหายของพระยสะ
เมื่อทราบข่าวยสกุลบุตรออกบวช จึงบวชตามพร้อมด้วยสหายอีกสามคน คือ ควัมปติ ปุณณชิ
และสุพาหุ
57. สภิยะ เดิมเป็นปริพาชก (นักบวชชายนอกพระพุทธศาสนา) มาก่อน ได้ฟังพระพุทธเจ้าพยากรณ์ปัญหาที่ตนถาม
มีความเลื่อมใสขอบวช หลังจากบวชไม่นานก็บรรลุพระอรหัต
58. สาคตะ เกิดในตระกูลพราหมณ์ในพระนครสาวัตถี
ขอบวชแล้วทำความเพียรจนมีความชำนาญในสมาบัต (ภาวะสงบประณีตซึ่งพึงเข้าถึง)
ท่านเป็นต้นบัญญัติสุราปานสิกขาบท เกิดความสังเวชในเหตุการณ์ที่เกิดกับตนครั้งนี้
จึงเจริญวิปัสนากัมมัฏฐานจนได้สำเร็จพระอรหัต ได้รับยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะใน “ทางเตโชสมาบัติ”
59. สารีบุตร เกิดที่หมู่บ้านนาลกะ
ไม่ไกลจากกรุงราชคฤห์เป็นบุตรแห่งตระกูลหัวหน้าหมู่บ้าน
เป็นพระสหายกับพระมหาโมคคัลลานะ อัครสาวกเบื้องซ้ายของพระพุทธเจ้า มาแต่เด็ก
ออกบวชเป็นปริพาชก จนได้พบหนึ่งในพระปัญจวัคคีย์คือ พระอัสสชิ
จึงได้มาเฝ้าพระพุทธเจ้าพร้อมด้วยโกลิตะ (นามเดิมของพระโมคคัลลานะ)
มีปริพาชกที่เป็นศิษย์ตามมา 250 คน ได้รับเอหิภิกขุอุปสมบททั้งหมดที่พระเวฬุวัน
กรุงราชคฤห์ บวชได้ 15 วัน ก็บรรลุพระอรหัต ได้รับยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะใน “ทางมีปัญญามาก”
พระสารีบุตรนับเป็นพระอัครสาวกเบื้องขวาของพระพุทธเจ้า
น้องชายทั้งสามของท่านคือ จุนทะ อุปเสนะ และเรวตะ บวชในพระธรรมวินัยบรรลุพระอรหัตเป็นพระมหาสาวกทั้งหมด
ส่วนน้องหญิงอีกสามคนก็บวชในพระธรรมวินัยเช่นกัน ท่านเป็นกำลังสำคัญของพระพุทธเจ้า
ในการประกาศศาสนา ได้รับยกย่องเป็น “พระธรรมเสนาบดี”
คำสอนของท่านปรากฏอยู่ในพระไตรปิฏกเป็นอันมาก
พระสารีบุตรมีคุณธรรมและจริยาวัตรที่เป็นแบบอย่างหลายประการเช่น
เป็นผู้มีความกตัญญูสูง สมบูรณ์ด้วยขันติธรรมต่อคำว่ากล่าว
เป็นผู้เอาใจใส่อนุเคราะห์เด็ก เป็นผู้เอาใจใส่ดูแลภิกษุอาพาธเป็นต้น
60. สีวลี เป็นพระโอรสของพระราชธิดาแห่งพระเจ้ากรุงโกลิยะ ต่อมาท่านบวชในสำนักของพระสารีบุตร
พอปลงผมเสร็จก็ได้สำเร็จพระอรหัต
ท่านสมบูรณ์ด้วยปัจจัยลาภและทำให้ลาภเกิดแก่ภิกษุสงฆ์เป็นอันมาก
ได้รับยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะใน “ทางมีลาภมาก”
ขอบคุณข้อมูลหนังสือความรู้เกี่ยวกับพระพุทธเจ้า โดยภัทรวรรณ วันทนชัยสุข