หลวงพ่อมิตร เจ้าอาวาสวัดเขาแผงม้า สาขาวัดหนองป่าพงที่ 104 ได้เขียนเกี่ยวกับ “บุญ” และ “บารมี” ไว้เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
“บุญ” นั้นมีพลานุภาพมากสามารถอยู่กับเราได้ ข้ามภพข้ามชาติ แต่หากส่งผลของกรรมดีจนบุญหมด เมื่อหมดก็คือหมดจริง ๆ
เราควร สะสม กรรมดีอันเป็นบุญไปเรื่อย ๆ พยายามอย่าสร้าง กรรมไม่ดีให้มันบันทึกไว้ในจิต เพราะเวลาบาปมันส่งผล มันก็จะมีอานุภาพหนักหนาพอ ๆ กัน
พระพุทธองค์เมื่อ บรรลุธรรม ก็ยังต้องรับ วิบากกรรม ที่ได้กระทำไว้ในอดีต แต่ถ้าท่านเป็นพระอรหันต์แล้วท่านจะรับกรรมแบบไม่มีทุกข์ในขันธ์ 5 ในสังขารของท่าน
“บุญ” นั้นมาจากกรรมดี ซึ่งมีที่มาได้สองทางคือ
หนึ่ง “บุญ” จากการกระทำเอง เช่น การทำทาน
สอง “บุญ” จากการรับรู้ที่ผู้อื่นได้ทำดี เรียกว่าอนุโมทนาบุญ
ส่วน “บารมี” มาได้ทางเดียวเท่านั้น คือ ”ท่านจะต้องทำเอง” และเมื่อสร้างแล้วมันจะ ถูกบันทึกไว้ในจิต ไม่มีลด มีแต่ทรงกับเพิ่ม ซึ่งต่างจาก “บุญ” เพราะ “บารมี” กระทำด้วยมี ปัญญา เป็นตัวนำ
วิธีการสร้าง “บารมี” มี 10 วิธีดังนี้
หนึ่ง ทานบารมี การที่จิตของเราพร้อมที่จะให้ทาน ให้เพื่อสงเคราะห์ไม่ใช่ให้เพื่อผลตอบแทน ให้แบบไม่เลือกเพศ ไม่เลือกฐานะ ไม่เลือกบุคคล และเต็มใจในการให้ทานนั้น ๆ
สอง ศีลบารมี คือการที่จิตของเราพร้อมในการรักษาศีล พยายามไม่ให้ศีลบกพร่อง และไม่ยุคนอื่นให้ละเมิดศีล ไม่ดีใจ เมื่อคนอื่นละเมิดศีล
สาม เนกขัมมบารมี คือการที่มีจิตพร้อมในการถือบวช ในการมุ่งสู่การปฏิบัติธรรม การบำเพ็ญภาวนา
สี่ ปัญญาบารมี คือ การที่จิตพร้อมที่จะใช้ปัญญาเป็นเครื่องประหัตประหารกิเลส และมีความรู้เท่าทันสภาวะของกฏสามัญลักษณะ ได้แก่ การเห็นอนิจจัง-ทุกขัง-อนัตตา ทุกอย่างไม่แน่
ห้า วิริยบารมี คือการที่มีความเพียรทุกขณะในการที่จะทำความดี ทำอย่างไมย่อท้อ
หก ขันติบารมี คือการที่มีความอดทนอดกลั้น ต่อสิ่งที่เป็นปฏิปักษ์ในการทำความดี
เจ็ด สัจจะบารมี คือการที่ตั้งมั่นในคำพูดที่ได้รับปากไว้แล้ว หรือการตั้งมั่นกับตนเอง พูดจริง ทำจริง
แปด อธิษฐานบารมี คือการตั้งเป้าหมายให้จิตแบบเจาะจง การที่ตั้งไว้ให้ตรงโดยเฉพาะตัวอย่างเช่น สมัยที่ พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์ทรงนั่งประทับที่โคนต้นพระศรีมหาโพธิ์ พระองค์อธิษฐานว่า ถ้าเราไม่ได้สำเร็จพระโพธิญาณ เราจะไม่ยอมลุกจากที่นี่ พระองค์ทรงอธิษฐานแบบเอาชีวิตเข้าแลกแล้วพระองค์ก็ทรงบรรลุในคืนนั้น
เก้า เมตตาบารมี คือ การที่มีความเมตตา ไม่เป็นศัตรูกับใคร ไม่เกลียดใคร ไม่อาฆาตใคร มีความรักตนเสมอด้วยบุคคลอื่น
และ สิบ อุเบกขาบารมี คือการมี่มีความวางเฉย มีความเป็นกลางต่ออารมณ์ที่ถูกใจ อารมณ์ที่ไม่ถูกใจ
ใครก็ตามที่ มีทั้งบุญและบารมี ถือว่าเป็นบุคคลที่ ประเสริฐสุด แล้ว
คำสอนของพระพุทธเจ้า มีความทันสมัย และสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ ในทุกรณี ฉะนี้แล
จากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ คอลัมพ์เห็นมาอย่างไรเขียนไปอย่างนั้น 6/5/62 โดย อนุภพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น