พุทธอนุชา เป็นโอรสเจ้าอมิโตทนะ (อนุรุทธะและมหานามะ
ก็ว่าเป็นโอรสของอมิโตทนะเหมือนกัน เข้าใจว่าจากชายาคนละองค์ บางคัมภีร์ว่าพระอานนท์เป็นโอรสเจ้าสุกโกทนะ
พระอนุชาของพระเจ้าสุทโธทนะ) พร้อมกับเจ้าชายศากยะและโกลิยะ 5 องค์ มีภคุเป็นต้น
หลังจากบวชแล้วได้ฟังโอวาท ของพระปุณณมันตานีบุตร ได้บรรลุเป็นพระโสดาบัน
หลังจากนั้นได้มารับหน้าที่ พุทธอุปัฏฐาก ถวายปรนนิบัติพระพุทธเจ้า
อยู่ตลอดพระชนม์ชีพของพระพุทธองค์ ไม่ค่อยมีเวลาปฏิบัติธรรม
เป็นพระโสดาบันอยู่นานจนได้บรรลุพระอรหัต หลังพุทธปรินิพพาน
ทันเข้าร่วมประชุมสังคายนาครั้งที่ 1 อันมีพระมหากัสสปะเป็นประธานพอดี
ท่านได้รับยกย่องจากพระพุทธองค์ว่าเป็นผู้เลิศกว่าผู้อื่นใน 5 สถานด้วยกัน คือ
1.เป็นผู้มีสติ
2.เป็นผู้มีคติ (แนวสำหรับจำพุทธวจนะ)
3.เป็นพหูสูต
4.เป็นผู้มีธิติ (ความเพียร) และ
5.เป็นพุทธอุปัฏฐากผู้เลิศ
ความที่ท่านเป็นผู้ทรงจำพุทธวจนะมากกว่าใคร
ท่านจึงได้รับเลือกจากพระมหากัสสปะ ให้เข้าร่วมทำสังคายนาพระธรรมวินัย
โดยทำหน้าที่วิสัชนาพระธรรมเป็นกำลังสำคัญช่วยให้การสังคายนาพระธรรมวินัยสำเร็จลงด้วยดี
นัยว่าพระอานนท์นิพพาน เมื่ออายุ 120 ปี โดยเข้าเตโชสมาบัติเหาะขึ้นบนอากาศ
อธิษฐานให้สรีระของท่านแยกออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งตกลงที่ฝั่ง ณ ฝั่งเมืองกบิลพัสดุ์
อีกส่วนหนึ่งตกลง ณ ฝั่งเมืองเทวทหะ เพื่อป้องกันพระญาติทั้งสองเมืองแก่งแย่งพระธาตุของท่าน
ขอบคุณข้อมูลจาก
หนังสือคาถาชินบัญชร
โดย ศ.พิเศษ เสฐียรพงษ์ วรรณปก
ราชบัณฑิต
ผู้ที่อยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมควรค้นหาในวิกิพีเดียสารานุกรมเสรีหรือในอินเตอร์เน็ต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น