บวชเมื่ออายุมากแล้ว ท่านเป็นชาวเมืองราชคฤห์ นามเดิมว่า ปิปผลิ
เป็นบุตรพราหมณ์ ผู้มั่งคั่งแห่งมหาติฏฐคาม แต่งงานกับบุตรีพราหมณ์โกสิยโครตนามว่า
ภัททกาปิลานี แต่งเพียงในนาม เพราะทั้งสองไม่มีจิตยินดีในการครองเรือน
เมื่อบิดามารดาสิ้นชีวิตแล้ว
ทั้งสองได้แบ่งทรัพย์สินให้ข้าทาสบริวารแล้วพากันออกไปแสวงหาโมกขธรรม
เมื่อมาถึงทางสองแพร่งก็แยกย้ายกันไป
ปิปผลิพบพระพุทธเจ้าประทับใต้ต้นกร่าง (พหุปุตตนิโครธ)
จึงเข้าไปนมัสการโดยยังไม่ทราบว่าเป็นใคร ได้ฟังพระโอวาท 3
ข้อจากพระพุทธองค์มีความเลื่อมใส ขอบวชเป็นสาวกของพระองค์โอวาท 3
ข้อนี้แลเป็นการอุปสมบทของท่าน
หลังจากบวชแล้ว พยายามปฏิบัติตามพระโอวาททั้ง 3 ข้อ
ไม่นานก็ได้บรรลุพระอรหัตเนื่องจากท่านบวช เมื่ออายุมากแล้ว
จึงพอใจจะอยู่อย่างเรียบง่ายในป่า จึงอธิษฐานธุดงควัตร 3 ข้อ (อยู่ป่าเป็นนิตย์, ถือบิณฑบาตเป็นนิตย์ และถือผ้าบังสุกุลเป็นนิตย์)
พระพุทธองค์ทรงยกย่องท่านว่าเป็นผู้เลิศกว่าผู้อื่นในทาง “ธูตวาทะ” (มีวาทะขัดเกลา,ถือปฏิบัติเคร่งครัดขัดเกลา)
เมื่อพระพุทธองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานได้
3 เดือน ท่านได้ชักชวนพระอรหันต์ทรงอภิญญา 500 รูป กระทำสังคายนา
ร้อยกรองพระธรรมวินัยให้เป็นหมวดหมู่ วางเป็นหลักให้ยึดถือปฏิบัติสืบมา
ขอบคุณข้อมูลจาก
หนังสือคาถาชินบัญชร
โดย ศ.พิเศษ เสฐียรพงษ์ วรรณปก
ราชบัณฑิต
ผู้ที่อยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมควรค้นหาในวิกิพีเดียสารานุกรมเสรีหรือในอินเตอร์เน็ต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น